วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แค



แค เป็นผักพื้นบ้านของเรามานาน รายการอาหารยอดนิยมก็คือ แกงส้มดอกแค คนโบราณมักแนะนำให้คนที่เป็นหวัด รับประทานแกงส้ม แก้หวัด คัดจมูกได้ เพราะน้ำจาก ดอกแค มีสรรพคุณแก้ปวดหัว มึนหัวและคัดจมูก


ยอดแค มีเบตาแคโรทีนสูงมาก เบตาแคโรทีนจะถูกเปลี่ยนเป็นไวตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกัน โรคมะเร็ง ได้ ยอดแค มีเบตาแคโรทีนมากกว่า ดอกแค แต่ ดอกแค มีไวตามินซีสูงกว่า ยอดแค รับประทาน ดอกแค สดๆ 100 กรัม จะได้ ไวตามินซีถึง 35 มิลลิกรัม ป้องกัน โรคเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันหวัด และ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขึ้นฉ่าย


ขึ้นฉ่าย ที่เราพบเห็นทั่วไปในตลาดจะเป็น ขึ้นฉ่าย พันธุ์จีน ส่วน ขึ้นฉ่าย พันธุ์ฝรั่ง หรือ เซเลอรีมีต้นอวบใหญ่กว่า ขึ้นฉ่าย มีสารพิเศษที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยลดความดันโลหิตได้ 

ขึ้นฉ่าย สดๆ มีไวตามินซีสูง นำมาทำสลัด ยำรสจัด หรือ ทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคได้ดี


นอกจากนี้ ขึ้นฉ่าย ยังมีเบตาแคโรทีนสูง ช่วยป้องกัน โรคมะัเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด และเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ขึ้นฉ่าย มีโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคไต แถมรับประทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเพราะมีแคลอรีต่ำ



ลำต้นและใบของขึ้นฉ่ายมีน้ำมันหอมระเหย ทำให้มีกลิ่นหอมเมื่อนำมาปรุงอาหาร จะช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหารได้

ขี้เหล็ก


ขี้เหล็ก เป็นผักที่คนส่วนใหญ่เมิน ไม่ค่อยมีโอกาสได้รับประทานสักเท่าไหร่ ทั้งๆที่ ขี้เหล็ก มีแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์มากมาย ขี้เหล็ก มี เบตาแคโรทีน สูง ช่วยบำรุงสายตา ต้าน อนุมูลอิสระ ลดโอกาสการเป็น มะเร็ง


สารแอนทราควิโนนในใบและดอกตูมเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ถ่ายคล่อง แก้ท้องผูก และยังช่วยป้องกันการเกิดนิ่วอีกด้วย

ใบ ขี้เหล็ก มีสรรพคุณทำให้นอนหลับได้ง่ายและคลายเครียด โดยใช้ใบแห้ง 30-40 กรัม หรือใบสด 50 กรัมต้มกับน้ำ 1 ลิตรให้เดือดนาน 15 นาที ดื่มก่อนนอนจะทำให้นอนหลับสบาย

คะน้า


คะน้า เป็นพืชตระกูลเดียวกับ ะหล่ำ ใบเขียวๆของ คะน้า เป็นแหล่งรวมไวตามิน และ เกลือแร่มากมาย เช่น ไวตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื่้นและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคสมบูรณ์ แต่ไวตามินซีสลายไปได้ง่าย ดังนั้นการรับประทานสดๆ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

นอกจากไวตามินซีแล้ว คะน้า ยังอุดมด้วยสารเบตาแคโรทีน ช่วยลด โอกาสการเป็น มะเร็ง ที่กระเพาะอาหาร ลำไส้ ลำคอ ปอด และกระเพาะปัสสาวะได้


ทีเด็ดอีกอย่างของ คะน้า คือ มีแคลเซียมสูง แถมยังดูดซึม ได้ดีกว่าแคลเซียมจากผักชนิดอื่นๆ ด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข้าวโอ๊ต


ข้าวโอ๊ต เป็นอาหารที่ ชาวยุโรปบริโภคกันเป็นประจำ ข้าวโอ๊ต อุดมไปด้วย สารอาหารที่เป็นประโยชน์ ต่อร่างกาย ข้าวโอ๊ต 100 กรัม มีโปรตีน 12 กรัม ไวตามินอีเล็กน้อย ไวตามินบีรวม มีแคลเซียมสูง โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม มีประโยชน์ต่อระบบประสาท ทำให้กระดูก และ ฟัน แข็งแรง

ข้าวโอ๊ต ช่วยบรรเท่าอาการเจ็บ และ ระคายเคือง ของ ลำไส้ได้เป็นอย่างดี ข้าวโอ๊ต เป็นอาหารที่ช่วยรักษาอาการ ป่วยได้ดี จึงนิยมให้ผู้ป่วยรับประทานข้าวโอ๊ต ต้ม

ข้าวโอ๊ต ยังเหมาะกับผู้ที่ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย ข้าวโอ๊ต มีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ จึงช่วยลด โคเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข้าวสาลี


ข้าวสาลี ก็เช่นเดียวกับข้าวที่ปัจจุบันถูกขัดสีจนขาว ขัดเอาไวตามิน และ เกลือแร่ออกไปจนหมด อย่างเช่น สังกะสี แมกนีเซียม ไวตามินบี 6 ไวตามินอี และ แทบจะไม่มีกากใยหลงเหลืออยู่เลย

แป้งสาลีชนิดไม่ขัดขาวมีคุณค่าอาหารอย่างมาก อุดมไปด้วยโปรตีน ขนมปังโฮลวีต จึงเป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก
ข้าวสาลี นำไปเพระเป็นกล้าอ่อน นำมาปรุงอาหารจะให้คุณค่า ทางอาหารอย่างมาก เหมาะกับผู้ป่วย โรคมะเร็ง

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข้าว


ข้าว เป็นอาหารหลัก ของชาวตะวันออก หลายๆชาติ เช่น ไทย ญี่ปุ่น จีน เปนต้น ข้าว เป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก แต่ปัจจุบันได้ถูกขัดสีจนขาว ซึ่งทำให้ผู้คนเป็นรคเหน็บชากันมาก เพราะว่าไวตามินบี 1 หรือ ไทอามีน ซึ่งมีอยู่ใน ข้าวกล้อง ได้ถูกขัดสีออกไปจนหมด ข้าวกล้อง จึงมีคุณค่า ทางอาหารมากกว่า ข้าว ขัดขาว

ข้าวต้ม ข้าวกล้อง เปล่าๆ รับประทานบรรเทาอาการท้องเสีย น้ำข้าวช่วยลดไขมัน เมล็ดธัญพืชที่ไม่ขัดสีจะทำให้ร่างกายหายจากอาการเจ็บป่าย และ เพิ่มพลังงานด้วย กากใยที่มีอยู่ในเมล็ดพืช จะลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ และ มะเร็งที่อื่นๆ

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กุยช่าย


กุยช่าย เป็นผัก กลิ่นแรงชนิดหนึ่ง ที่เราคุ้นเคยกัน มี 3 ประเภทคือ กุยช่ายเขียว กุยช่ายขาว และ ดอกกุยช่าย ซึ่งล้วนแต่เป็นพันธุ์เดียวกันทั้งนั้น ต่างกันตรงกระบวนการปลูก และ การตัดส่วนมาขาย

กุยช่าย มีแคลเซียม และ ฟอสฟอรัสสูง ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง มีธาตุเหล็กที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง นอกจากนี้ยังอุดมด้วยไวตามินซี และ เบตาแคโรทีน ที่สำคัญ ก็คือ กุยช่าย มีกากใยอาหารสูง ช่วยในารขับถ่ายคล่อง ท้องไม่ผูก ลดโอกาสการเป็นริดสีดวงทวาร และ มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ดี

ข่า



ข่า เป็นอีกหนึ่งในพืชผัก สมุนไพรที่ครัวไทยบ้านเราขาดไม่ได้ เพราะนอกจากสรรพคุณด้านยาแล้ว ข่า ยังประกอบด้วย ไวตามินหลากหลาย ไวตามินบี 1 ไวตามินบี 2 และ ไวตามินซี มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และ เบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตัวสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็ง

นอกจากนี้ ข่า ยังช่วยขับลมแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อแน่น จุกเสียด ขับเมหะ หลอดลมอักเสบ ลดอาการเร็งของกล้ามเนื้อเรียบ ต้านวัณโรค

อาหารจานต่อไปอาจเป็นข้าวน้ำพริกลงเรือที่รับปราน กับเครื่องเคียงอย่างข่า อ่อนต้มก็ไม่เลวเลยทีเดียว เพราะได้ทั้ง คุณค่าและความอร่อยครบสูตร

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กีวีฟรุต



กีวีฟรุต นับว่าเป็น ผลไม้ที่แปลก เปลือกดูไม่ค่อยน่ารับประทน แต่เนื้อในเป็นสีเขียวฉ่ำแสนอร่อยแถมยังมีคุณค่าอาหารมากมายทีเดียว กีวีฟรุต มีไวตามินซีมากกว่าส้มถึงสองเท่า มีกากใยมากกว่าแอปเปิล และมีไวตามินอีเท่ากับ อโวคาโด

กีวีฟรุต ยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยลดความดันโลหิต ลดความเครียด ความอ่อนเพลีย และ ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานดีขึ้น

กีวีฟรุต สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ เวลาจะรับประทาน จึงค่อยปอกเปลือกออก เพื่อรับประทานได้ตามต้องการ

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขิง


ขิง ช่วยทุเลาอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดได้ เพราะขิง จะช่วย กระตุ้นการบีบตัวของกระเพราะอาหาร และ ลำไส้ ช่วยขับลม ทำให้สบายท้อง

ขิง ใช้ป้องกันอาการเมารถเมาเรือ ได้ดีว่ายาเป้องกันเมารถเมาเรือเสียอีกเพราะยาพวกนี้มีผลข้างเคียงคือ ทำให้ง่วง ปากแห้ง มึนงง ในขณะที่ ขิง ไม่มีผลข้างเคียงเหล้านี้ คราวหน้าก่อนขึ้นรถลงเรือ อย่าลืมดื่มน้ำ ขิงแก่ หรือ รับประทาน ไก่ผัดขิง ไปล่วงหน้า

คนที่ไอโขลกๆ ให้ฝนขิงกับน้ำมะนาว ผสมเกลือ เล็กน้อยใช้กวาดคอ อาการไอ และ เสมหะ จะ บรรเทาลง

กล้าอ่อน


ในที่นี้หมายถึง การนำเมล็ดธัญพืช มาเพราะให้งอก แล้วนำมารับประทานเลย เมล็ดพืช ขณะที่กำลังงอกนั้น ปริมาณ ไวตามินจะเพิ่มขึ้นถึง 700% และ อุดมไปด้วยไวตามินบี 12 เกลือแร่ และ เอนไซม์ รับประทานกล้าอ่อนสดๆ เช่น นำไปใส่แซนด์วิช หรือ ใส่สลัดผัก

เมล็ดธัญพืช ที่นำมาเพราะได้ก็มีถั่วเหลือง ถั่วเขียว อัลฟัลฟา งา ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น หากได้เมล็ดธัญพืชปลอดสารพิษก็ยิงดี เมล็ดธัญพืชที่เพราะใช้เวลา 2-6 วันก็นำมารับประทานได้

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กล้วย



กล้วย เป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง และยังมีสังกะสี เหล็ก กรดโฟลิก แคลเซียม และสารอาหารอื่นๆ ที่มี

ประโยชน์ต่อร่างกาย กล้วย มี เพกติน ซึ่งช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียออกได้ เช่น เดียวกับ แอปเปิล สารนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระทำให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น

กล้วย มีปริมาณ ไวตามินบี 6 เท่ากับตับ ในปริมาณน้ำหนักที่เท่ากัน หัวปลี ก็มีประโยชน์ไม่แพ้ผล กล้วย หัวปลีให้ ไวตามิน สูง นำมากินแกล้มผัดไทย หรือจะใส่ในต้มข่าไก่ก็อร่อยเหมือนกัน

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กะหล่ำปลี


น้ำ กะหล่ำปลี คั้นสดสามารถรักษาโรค แผลในกระเพราะอาหารได้ ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางควร รับประทน กะหล่ำปลี เพราะมีธาตุเหล็กสูง

จากการทดลอง พบว่าเม็ดเลือดแดงของกระต่าย อยู่ในระดับปกติเมื่อได้กิน กะหล่ำปลี กะหล่ำปลี ยังมี ประโยชน์ต่อผู้ที่เครียดจัด และ ผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจ กะหล่ำปลี เป็นอาหารต้าน มะเร็ง อีกชนิดหนึ่ง จากผลการวิจัย กินกะเหล่ำปลีมากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ จะลด โอกาสการเป็น มะเร็ง ลำไส้ในผู้ชายได้ถึงร้อยละ 66 ผู้ป่วยโรคไทรอยด์ไม่ควรกิน กะหล่ำปลี สดมาก เพราะใน กะหล่ำปลี สดมีสาร Goitrogen ซึ่งถ้ามีมากจะขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กะหล่ำดอก




กะหล่ำดอก เป็นผักตระกูลเดียวกับ กะหล่ำปลี และ บรอกโคลี มีไวตามินซีสูงมาก กะหล่ำดอก 100 กรัม มีไวตามินซีสูงถึง 96มิลลิกรัม สูงกว่าที่ร่างกายเราต้องการใน 1 วัน คือ 60 มิลลิกรัมเสียอีก 

นอกจากจะช่วยป้องกัน โรคเลือดออกตามไรฟันแล้ว ยังช่วยเพิ่มปรมาณ สเปิร์ม และทำให้ สเปิร์ม แข็งแรงด้วย

ในกะหล่ำดอกมีสาร ซัลโฟราเฟน ที่เพิ่มปริมาณเอนไซม์ ที่เป็นหลักในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ช่วยป้องกัน มะเร็ง ที่เต้านมและลำไส้ใหญ่ได้ดี

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กะเพรา


กะเพรา มีกลิ่นรสร้อนแรงซึ่งใช้สยบกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ในอาหารต่างๆได้ดี กะเพรา มีคุณสมบัติหลายๆอย่างที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น 

สรรพคุณทางยาหรือในการนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพราะ ฤทธิ์ทางยา กะเพรา ช่วยคลายความอึดอัด ไม่สบายท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือจุกเสียด โดยให้ใช้ กะเพรา ชงในน้ำร้อนแล้วดื่ม อาการจะดีขึ้น นอกจากนี้ กะเพรา ยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ในสตรีหลังคลอดอีกด้วย

ส่วนสารอาหารอื่นที่มีอยู่ใน กะเพรา ก็เช่น เบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือดได้ ใบ กะเพรา ยังมีแคลเซียม และ ฟอสฟอรัสสูงมาก ซึ่งจะช่วยบำรุงกระดูก ให้แข็งแรง ดังนั้นการปรุงอาหารที่มีส่วนประกอบของใบ กะเพรา อยู่ด้วยก็จะช่วยให้ได้สารอาหารค่อนข้างครบครันเลยทีเดียว


กระเทียม


กระเทียม จัดเป็นยอดสมุนไพรชนิดหนึ่ง คุณสมบัติของ กระเทียม เป็นที่รู้จักกันดีแทบจะเรียกว่าทั่วโลก กระเทียมสามารถป้องกันมะเร็ง รักษาโรคหัวใจ โรคติดเชื้อต่างๆ เช่น วัณโรคและไทฟอยด์ โรคปอดลำไส้อักเสบ และ โรคเกาต์

กระเทียมมีคุณสมบัติ เป็นยาแก้อักเสบ และ ทำลายแบคทีเรีย โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อผู้ป่วย นอกจากนี้ยังช่วย ลดโคเลสเตอรอล และลดความดันโลหิตสูงอีกด้วย

กระชาย


กระชาย เป็นพืชสมุนไพรที่นำมาประกอบเป็นส่วนหนึ่ง ของอาหารไทยหลายชนิด กระชาย มีน้ำมันหอมระเหย และ สารสำคัญหลายชนิดที่มี

สรรพคุณ
ในการช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่น และแก้อาการปวดมวนในท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ รักษากลาก เกลื้อน และ งูสวัด

ส่วนสารอาหารที่พบมากในราก และ เหง้าของ กระชาย ก็คือแคลเซียม และ ไวตามินเอ หากอยากได้สาร อาหารและสรรพคุณจาก กระชาย อย่างครบถ้วนก็อาจรับประทาน กระชาย เป็นหนึ่งในผักเคียงกับน้ำพริกได้

กระเจี๊ยบมอญ




กระเจี๊ยบมอญ เป็นพืชผักที่มี ลักษณะปลายฝักแหลม รูปทรงเป็น 5 เหลี่ยม หากดูให้ดีแล้วก็สวยแปลกไม่เหมือนใครดี

สรรพคุณ ของ กระเจี๊ยบมอญ ก็มีมากหลาย เช่น สารสกัดจาก กระเจี๊ยบมอญ ช่วยในการขับพยาธิตัวจี๊ด รักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติ ช่วยบำรุงสมอง

นอกจากนี้ กระเจี๊ยบมอญ ยังประกอบด้วย ไวตามินเอ ไวตามินบี 1 ไวตามินบี 2 เหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และเมือก โดยเฉพราะเมือกจะมีคุณสมบัติเด่น คือรักษาโรคกระเพราะ บรรเทาอาการระคายเคืองของเนื้อเยื่อที่อักเสบ กระเจี๊ยบมอญ จึงเป็นผักที่ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ในคนที่เป็นเยื่อบุกกระเพราะหรือลำไส้อักเส และ ยังเป็นยาระบายที่ดีอีกด้วย

บทความที่ได้รับความนิยม